โดยส่วนมากแล้วนักประชาสัมพันธ์ จะถูกมองว่าทำประชาสัมพันธ์แบบไม่มีกลยุทธ์ (Strategy) ทำ PR แบบเดิมๆ ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ หรือทำงานตามคำสั่งเท่านั้น ไม่ได้มี Framework ใดๆ มาเป็นตัวกำหนดในการทำงานเหมือนงานของ Marketing ที่มี Framework เยอะแยะมากมาย
แล้วการทำ Digital PR ไม่มี Framework จริงหรือ?
ในฐานะคนทำ PR มากว่า 13 ปี ขอกล่าวว่า "การทำ PR ไม่ว่าจะเป็นแบบ Traditional PR หรือ Digital PR นั้นมี Framework เหมือนกับการทำงานประเภทต่างๆ เพียงแต่นักประชาสัมพันธ์อาจไม่ได้ทำออกมาให้เป็นรูปแบบ Framework เท่านั้น ทั้งนี้จึงขออธิบายผ่านตัวอย่างการใช้ Framework เพื่อง่ายต่อการเข้าใจ และตัวอย่างครั้งนี้สามารถเป็นแนวทางในการทำงานให้กับนักประชาสัมพันธ์ ได้ใช้งานได้จริง
WATER FRAMEWORK
WATER FRAMEWORK คือ อุปกรณ์ที่ช่วยให้งานประชาสัมพันธ์วางแผนอย่างเป็นระบบ และตรงตามวัตถุประสงค์ (Objective) ให้งานประชาสัมพันธ์ทำงานได้ไหลลื่นเหมือนดั่งสายน้ำ
WATER ประกอบไปด้วย
W - Willingness หรือ จุดประสงค์ในการทำงานประชาสัมพันธ์ (What, Why) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการทำงานประชาสัมพันธ์ ซึ่งเราจำเป็นต้อง Strict on Objective ว่าอะไรคือจุดประสงค์ในการทำประชาสัมพันธ์
A - Audience หรือ กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการทำประชาสัมพันธ์ กลุ่มที่เราต้องการทำประชาสัมพันธ์ด้วยนั้นคือกลุ่มไหน เราสามารถแยกแยะกลุ่มของเป้าหมายออกมาเป็นกลุ่มย่อยๆ ได้หลายๆ กลุ่ม (ซึ่งการแยกย่อยหลายกลุ่มจะช่วยให้คุณสามารถมองเห็นภาพทั้งหมดของการประชาสัมพันธ์ รวมถึงเทคนิคต่างๆ และ Content ที่จะเข้าถึงกลุ่มต่างๆ ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น)
T - Timely หรือ เวลาที่เราจะทำประชาสัมพันธ์ ซึ่งรวมถึงตั้งแต่ตอนก่อนเริ่มงานจนถึงหลังงาน
E - Execution หรือ วิธีการในการทำประชาสัมพันธ์ รูปแบบในการทำงานประชาสัมพันธ์ ซื้อประกอบไปด้วย 4C คือ
Channel ช่องทางการประชาสัมพันธ์
Content เนื้อหา
Creativity รูปแบบที่แปลกใหม่
Contribution วิธีการกระจายเนื้อหาหรือการส่งเนื้อหาหรือ Content
R - Respect to Transparency หรือ การวัดผล งานประชาสัมพันธ์จำเป็นต้องวัดผลได้ ซึ่งในแต่ละชิ้นงานที่ทำออกไป เราจำเป็นต้องระบุการวัดผลด้วยเช่นกัน (วิธีการวัดผลคลิกที่นี่)
ลองดูตัวอย่างด้านล่างนะคะ